มูลนิธิเพื่อเด็กพิการ

ผู้สื่อข่าวรายงาน พระครูวิสุทธานันทคุณ, ผศ.ดร. เจ้าคณะอำเภอโพธาราม เจ้าอาวาสวัดเขาช่องพราน จ.ราชบุรี นำคณะสงฆ์อำเภอโพธาราม พร้อม นายนิสิต สังข์ทอง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 4 ต.เตาปูน อ.โพธาราม และเจ้าหน้าที่ อสม. ได้เดินทางเข้าเยี่ยมเยียน นายทวีชัย ธรรมกาวี อายุ 61 ปี ชาวบ้านหมู่ 4 ต.เตาปูน ซึ่งเป็นครอบครัวผู้พิการทั้งบ้านรวม 3 คน โดยคณะสงฆ์ยังได้มอบมอบเครื่องอุปโภคบริโภค เพื่อนำไปใช้ดำรงชีวิตประจำวัน

พระครูวิสุทธานันทคุณ, ผศ.ดร. เจ้าคณะอำเภอโพธาราม เปิดเผยว่า นอกจากงานเผยแพร่พระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว งานด้านสงเคราะห์ ก็เป็นอีกหนึ่งบทบาทหน้าที่ของพระสงฆ์ ทั้งนี้เพื่อยังประโยชน์แก่สังคมให้สงบสุข คณะสงฆ์อำเภอโพธาราม จึงได้ร่วมกันดำเนินกิจกรรมสงเคราะห์ญาติโยมเป็นประจำทุกเดือน มาตั้งแต่ปี 2557 โดยเมื่อช่วงต้นปี 2564 ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจาก นายนิสิต ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.เตาปูน ว่ามีผู้พิการในครอบครัวเดียวกัน จำนวน 3 คน ต้องการความช่วยเหลือ อาตมาพร้อมคณะจึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพบ นายทวีชัย ธรรมกาวี ป่วยด้วยอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง ทำให้มีชีวิตที่ยากลำบาก ไม่สามารถทำงานหาเลี้ยงชีพได้ตามปรกติ นอกจากนี้ ยังพบลูกชายอีก 2 คน คือ นายทศพร ธรรมกาวี อายุ 34 ปี และนายวินัด ธรรมกาวี อายุ 32 ปี ก็ล้มป่วยด้วยโรคเดียวกัน ทำให้ภรรยาของนายทวีชัย ต้องคอยทำหน้าที่ดูแลทั้ง 3 ชีวิต ซึ่งทั้งหมดได้พักอาศัยใต้ถุนบ้านของน้องชาย เป็นภาพที่น่าเวทนาเมื่อได้พบเห็น

คณะสงฆ์อำเภอโพธาราม จึงมติให้ช่วยกันระดมทุนบริจาค เพื่อดำเนินการสร้างบ้าน พร้อมห้องน้ำสำหรับผู้พิการ ในส่วนของอุปกรณ์ ตลอดจนแรงงานในการสร้างบ้านนั้น มีญาติโยมผู้มีจิตศรัทธาหลายๆ ท่าน ได้ร่วมด้วยช่วยบริจาคเป็นเงินจำนวน 156,700 บาท โดยใช้เวลาก่อสร้างเพียง 1 เดือน จึงแล้วเสร็จ นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้สำหรับผู้ป่วย อาทิ เตียงนอนสำหรับผู้ป่วย ที่นอนลม รถเข็นวีลแชร์ เครื่องใช้ไฟฟ้าในชีวิตประจำวัน และเครื่องอุปโภคบริโภค ตลอดจนได้มอบเงินที่เหลือจาการสร้างบ้านจำนวน 78,850 บาท สำหรับไว้ใช้ในการดำรงชีพต่อไปอีกด้วย

พระครูวิสุทธานันทคุณ, ผศ.ดร. เจ้าคณะอำเภอโพธาราม ยังได้กล่าวแนะแนวทางในการดำเนินชีวิตให้กับพุทธศาสนิกชนในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 เนื่องในวันวิสาขบูชา ว่า “ขอให้ทุกคนจงมี สติ ตัวอย่างง่ายๆ เพียงปฏิบัติตัวตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดด้วยการ สวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือ เว้นระยะห่าง Social Distancing และหลีกเลี่ยงการเข้าใปอยู่ในพื้นที่เสี่ยง ทั้งหมดคือต้องใช้สติ หากวันใดประมาท ไม่ควบคุมตัวเอง ก็มีโอกาสติดโควิดได้ทันที และขอให้ปรับตัว ยอมรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้ได้ เพราะโรคโควิดไม่ได้เป็นแค่ประเทศไทย แต่มันเป็นกันทั่วโลก”

ขอบคุณ  : https://www.tddf.or.th/news/detail.php?contentid=0066&postid=0022607&currentpage=1

ขอบคุณ… https://www.banmuang.co.th/news/region/235755