มูลนิธิเพื่อเด็กพิการ

การทำสวนกลายเป็นการเยียวยาด้วยสวนบำบัด

การทำสวนกลายเป็นการเยียวยาด้วยสวนบำบัด การได้ขุดดิน การเพาะเมล็ด ช่วยในการเยียวยา

          เช้าวันที่แสงแดดอบอุ่น ที่สวนหลังบ้านของคุณโทนี่ ไรท์ ในรอสเวล จอร์เจีย  เขาเกษียณอายุจากการทำงานเป็นผู้จัดการทรัพยากรมนุษย์ เขานั่งบนเก้าอี้พับได้และมองไปรอบ ๆ  อย่างสุขสงบ ที่ซึ่งปกคลุมด้วยต้นไม้ใหญ่และนกที่ส่งเสียงร้อง เขาจิบกาแฟช้า ๆ และอ่านหนังสือ “การไตร่ตรองประจำวัน”  หลังจากนั้น เขาเดินอย่างช้าๆ ในสวน ดูว่าต้นไม้ของเขากำลังทำอะไร และต้องการอะไร

นี่เป็นสิ่งที่ไรท์เริ่มต้นชีวิตทุก ๆ เช้า ชายวัย 68 ปีที่ดูอ่อนกว่าวัยได้ทำมาหลายปีและหลงใหล เขาปลูกพิทูเนียในกระถาง ใช้มือขุดดิน และรดน้ำพืชด้วยฝักบัว

“การรดน้ำต้นไม้ การตัดแต่งพุ่มไม้ ทำให้ผมได้สัมผัสธรรมชาติ ผมจะคอยเงี่ยหูฟังว่าธรรมชาติพยายามบอกอะไรผม” โทนี่ ไรท์ดูแลสวนทุก ๆ วัน และดื่มด่ำจากสวนบำบัดของตนเอง“ผมรู้สึกโล่งและเบา อาการซึมเศร้าทำให้ผมรู้สึกเครียด”

เมื่อ 4 ปีก่อน ไรท์ได้รู้จัก “สวนบำบัด” ในระหว่างการบำบัดที่ศูนย์สุขภาพจิต “Skyland Trail” ในแอตแลนตา สวนบำบัดเป็นการบำบัดที่ใช้พืชและสวนในการฟื้นฟูสุขภาพทางจิตและกาย นักพืชสวนบำบัดจะใช้สวนบำบัดกับกลุ่มต่าง ๆ ที่จะได้ประโยชน์ เช่น ทหารผ่านศึก เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่ติดสารเสพติด และมีปัญหาทางสุขภาพจิต

“ผมมีปัญหารุนแรงเกี่ยวกับอาการซึมเศร้าและติดเหล้า มันเป็นหายนะของชีวิต ของครอบครัว และความสัมพันธ์”          ตลอด 3 เดือน ไรท์ใช้เวลาอยู่ในเรือนเพาะชำต้นไม้ “ผมถูกถามว่า ผมจัดดอกไม้เป็นมั้ย? เปลี่ยนกระถางต้นไม้ได้หรือไม่? ตัดแต่งต้นไม้เป็นหรือเปล่า?” ผมพูดว่า “ผมจะลองดู”

“มันเป็นการบำบัด และผมไม่รู้มาก่อนเลย” ไม่มีใครมาบอกว่า “นี่เป็นการบำบัด และเรากำลังจะทำดังนี้……” ไรท์พูด“เมื่อผมสัมผัสพืช ผมรู้สึกถึงความสงบ จริง ๆ นะ เหมือนพระเจ้าส่งมันมาให้ผม”ประโยชน์ของธรรมชาติต่อจิตและกายของเรา

          สวนบำบัดมีรากฐานความเชื่อว่า การได้ปฏิสัมพันธ์กับพืชจะนำสุขภาวะมาให้เรา ไม่ว่าจะเป็นการทำสวน หรือการมีพืชในบ้านของเรา
การศึกษาจำนวนมากพบว่า  เพียงแค่การอยู่กับธรรมชาติ เช่น การเดินเล่นในสวน ในป่า สามารถปรับปรุงสภาพของอารมณ์ ลดความดันโลหิต และลดระดับฮอร์โมนความเครียด และทำให้คนอายุยืนยาวทำไม เราควรไปอาบป่า (forest bathing) ไม่ได้หมายถึงต้องเอาแชมพูอาบน้ำไปด้วยการดูแลพืชและสวนโดยมีนักสวนบำบัด เป็นการพัฒนาสวนบำบัดเพิ่มขึ้นการศึกษาหนึ่ง พบว่า ผลกระทบของสวนญี่ปุ่นต่อกลุ่มผู้ป่วยอัลไซเมอร์ “ผู้ป่วยที่มีความจำเสื่อมรุนแรงมีความจำระยะสั้นดีขึ้น หลังจากบำบัดด้วยสวนบำบัด บางคนยังคงจดจำเสียงจิ้งหรีดในสวนได้เกือบ 2 สัปดาห์หลังจากนั้น” โจเอล แฟลกเลร่า ศาสตราจารย์ด้านพืชสวนบำบัด มหาวิทยาลัยรัทเกอร์ กล่าว

 

 สวนบำบัดสำหรับผู้นั่งรถเข็น และความต้องการพิเศษ

          สำหรับผู้ที่นั่งรถเข็น สวนที่มีกะบะ กล่อง ยกระดับให้ดินและพืชอยู่ในระดับที่ไม่ต้องก้มลง อุปกรณ์การทำสวนที่ปรับสภาพ และนักสวนบำบัดที่คอยแนะนำการใช้อุปกรณ์

          ราเชล โคแครน ก่อตั้งองค์กรสวนบำบัด the Atlanta nonprofit Trellis Horticultural Therapy Alliance หลังจากที่ลูกสาวของเธอถูกรถชนและเกิดความพิการทางสมอง นักสวนบำบัดพบว่า ไม่ค่อยมีโอกาสมากนักในเมืองสำหรับนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษในการเข้าถึงสวนบำบัด แต่องค์กร “จอร์เจียเทค” ก็ให้ทุนแก่โรงเรียนของลูกสาวเธอเพื่อสร้างสวนสำหรับการเรียนรู้การสัมผัสที่นักเรียนที่นั่งรถเข็นสามารถเข้าถึงได้

สวนยังสร้างไม่เสร็จ แต่เธอเอาธรรมชาติเข้าไปในห้องเรียน “เราเอาดอกไม้ เราทำที่ให้อาหารนก เพื่อที่เธอจะได้เอาอาหารนกใส่ในตะกร้าได้ เราเอาลูกสน ดอกไม้สีสันสวยงาม เราแขวนที่ให้อาหารนกที่หน้าต่าง” เธอกล่าว “นอกจากจะช่วยกระตุ้นอารมณ์ที่สดใสให้เด็ก ๆ แล้ว ยังช่วยกระตุ้นอารมณ์ของครูและสุขภาพด้วย”

การต้องดูแลผู้ป่วยเป็นงานที่ต้องทำซ้ำ ๆ และน่าเบื่อทุกวันนี้ เธอมีโครงการจำนวนมากระหว่างเมืองต่าง ๆ ตั้งแต่ สวนที่ติดกับที่พักผู้สูงอายุที่เป็นอาคารสูง ที่ซึ่งเธอทำงานกับผู้สูงอายุกลุ่มเล็ก ๆ ปลูกผัก ดูแล และลิ้มรส นี่คือ “สายสัมพันธ์จากอดีตกาล”

หมายเหตุ แปลจากสารคดีของ CNN ใน https://edition.cnn.com/2018/08/03/health/sw-horticultural-therapy/index.html

 


ย้อนกลับ