มูลนิธิเพื่อเด็กพิการ
ธรรมชาติทำให้เด็กๆ มีความสุขมากขึ้น
ธรรมชาติทำให้เด็ก ๆ มีความสุขมากขึ้น
ในขณะที่ภรรยา ลูกสาว และข้าพเจ้าเดินขึ้นภูเขา ผ่านป่าในอุทยานแห่งหนึ่งใกล้บ้าน ข้าพเจ้าอธิบายให้พวกเขาฟังว่า เรากำลังทำสามเรื่องที่จะสร้างความสุขให้พวกเราได้อย่างไร
ทำไมชาวนอร์เวย์ถึงมีความสุข
อย่างแรก เรากำลังออกกำลังกาย ซึ่งรู้กันดีว่า ทำให้จิตใจแจ่มใส
อย่างที่สอง เรากำลังใช้เวลาอย่างมีค่ากับคนที่เรารัก ซึ่งสัมพันธ์กับความสุขของชีวิต
อย่างที่สาม เราอยู่ในธรรมชาติ
การเดินขึ้นเขาในป่าจึงเกิดคุณค่า 3 อย่าง และไม่ต้องใช้ความพยายามมากมายจนเกินไปการเดินขึ้นเขาในวันสุดสัปดาห์ทำให้จิตใจของเราดีขึ้น แม้ว่าฝนจะตก ลุยโคลนที่เละ เด็ก ๆ อาจซุ่มซ่าน หรือบ่นที่ต้องเดินหน้าต่อ หรือบางครั้งต้องเปลี่ยนแผนการเดิน มันเป็นการผจญภัยที่ไม่มีการวางแผนล่วงหน้า การค้นพบ การเชื่อมต่อ และความงดงาม เรามีความสุขมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
วิทยาศาสตร์ พบว่า
งานวิจัยที่เป็นวิทยาศาสตร์มากกว่าการทดลองเล็ก ๆ ของเรา สนับสนุนเรื่องจิตใจที่เราได้บันทึกไว้อย่างสม่ำเสมอ Kristen Rogers เพื่อร่วมงานของข้าพเจ้าได้ทำการค้นคว้าและค้นพบเกี่ยวกับธรรมชาติและความสุขที่เกิดขึ้น
งานวิจัยจำนวนมากจะเกี่ยวกับการที่ธรรมชาติมีผลกระทบต่อพฤติกรรมการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและความสุขในผู้ใหญ่ แต่งานศึกษาชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์เมื่อวันพุธในวารสารจิตวิทยาชั้นแนวหน้า นักวิจัยได้ศึกษาผลกระทบ “ความเชื่อมโยงกับธรรมชาติ” ในกลุ่มเด็ก ที่มีผลอย่างยั่งยืนต่อพฤติกรรมและความสุข
เด็กทารกยินดีเปิดใจรับต่ออาหาร แสดงถึงความ
นักวิจัยได้ชี้ให้เห็นถึงความผูกพันกับธรรมชาติว่าเป็น “เป็นลักษณะของมนุษย์ในการคิดและรู้สึกที่เชื่อมโยงกับทุก ๆ สิ่งในธรรมชาติแวดล้อม และเกิดความสุขมากกว่า”
ในชั้นเรียนหนึ่งในประเทศเม็กซิโก เด็กนักเรียนร่วม 300 คน อายุระหว่าง 9-12 ปี ได้ตอบแบบสอบถามเพื่อประเมินระดับความผูกพันกับธรรมชาติ พฤติกรรมการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและความสุข นักวิจัยพบว่า เด็กที่รู้สึกผูหพันกับธรรมชาติ จะรู้สึกยินดีเมื่อเห็นดอกไม้และสัตว์ป่า ได้ยินเสียงของธรรมชาติ จะมีความจริงใจ หรือชอบช่วยเหลือผู้อื่น เด็กเหล่านี้จะกระตือรือร้นในการรักษาสิ่งแวดล้อมด้วยการถีบจักรยาน การนำของกลับมาใช้ซ้ำ และประหยัดน้ำ นอกจากนี้ อาจกล่าวได้ว่า เด็กเหล่านี้เชื่อในความเท่าเทียมทางเพศ เชื้อชาติ และฐานะทางเครษฐกิจสังคม ท้ายที่สุด เด็กเหล่านี้มีคะแนนความสุขสูง
“เด็ก ๆ ต้องการตัวอย่างที่ดี……คนที่จะแนะนำพวกเขาอย่างอ่อนโยนเกี่ยวกับธรรมชาติด้วยความตื่นเต้น มองในด้านบวก และทัศนคติในการเรียนรู้ตลอดชีวิต” Miyuki Maruping ครูสอนเรื่องการทำสวนที่โรงเรียนวอลดอร์ฟ ในแอตแลนต้า ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับงานวิจัยการศึกษาแบบวอลดอร์ฟจะเน้น ศิลปะ จินตนาการ การเคลื่อนไหว และธรรมชาติ
“โรงเรียนอนุบาลในป่า” มีหลายแห่ง ทั่วประเทศ มีการทำสวน ทางเดินในธรรมชาติ การเดินขึ้นเขา และการทำกิจกรรมกลางแจ้งเป็นเวลา 3 ชั่วโมงต่อวัน ทั้งฝนตกและแดดออก
“เราไม่จำเป็นต้องมีผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมหรือธรรมชาติศึกษา สิ่งที่สำคัญมากกว่าคือ เราใช้เวลาอยู่กับเด็ก ๆ ด้วยการเรียนรู้ ค้นหาด้วยความกระหายอยากรู้ในสิ่งแวดล้อมที่สนุกสนานและปลอดภัย” Maruping กล่าว
งานวิจัยพบว่า “การใช้เวลาอยู่กับธรรมชาติทำให้สุขภาพดีขึ้น”
ไม่เพียงเฉพาะเด็กเท่านั้น การศึกษาในปีค.ศ. 2015 พบว่า ผู้ที่เดินในธรรมชาติจะมีความคิดเชิงลบซ้ำ ๆ ลดลง ระบบบริการด้านสาธารณสุขของรัฐในประเทศสก็อตแลนด์พยายามโน้มน้าวให้เห็นประโยชน์ต่อสุขภาพจิตและกายด้วยการกระตุ้นให้แพทย์สั่ง “การรักษาด้วยธรรมชาติ” เพื่อรักษาความดันเลือดสูง ความวิตกกังวล และโรคซึมเศร้า
“การศึกษาจำนวนมากแสดงว่า แม้เป็นการปฏิสัมพันธ์เชิงรับกับธรรมชาติก็ยังช่วยเยียวยาปัญหาต่าง ๆ เช่น ความเครียด ความวิตกกังวล และช่วยให้มีสมาธิดีขึ้น” Dr. Tina Cade ศาสตราจารย์ด้านพืชสวนบำบัด มหาวิทยาลัยรัฐเท็กซัส ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับงานวิจัย
“งานวิจัยอื่น ๆ แสดงว่า การมีส่วนร่วมเชิงรุกกับสวน ช่วยให้เด็ก ๆ กินอาหารได้มากขึ้น ออกกำลังกายมากขึ้น มีทัศนคติที่ดีขึ้นต่อโรงเรียน และความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล” Cade กล่าว
แปลจาก CNN Health’s weekly newsletter David G. Allan and Kristen Rogers, CNN Updated 1042 GMT (1842 HKT) February 26, 2020