Page 27 - คู่มือสวนบำบัด
P. 27
ดูการใช้รูปภาพ ให้เด็กวาดภาพ ว่าทาตามได้หรือไม่ อย่างไร แต่ไม่ได้ใช้ในการวินิจฉัยว่าเด็กมีปัญหาเรื่อง สติปัญญา แต่จะเป็นตัวบอกว่าเด็กอาจจะมีความล่าช้าด้านสติปัญญา ซึ่งหากต้องการประเมินรายละเอียดต้อง ทาการตรวจประเมิน IQ ต่อไป
6) ความพิการทางการเรียนรู้
6.1) แอลดี (learning disability/LD)
เดก็ ทภี่ าวะการเรยี นรบู้ กพรอ่ ง หรอื เปน็ แอลดี (LD) คอื เดก็ ทมี่ สี ตปิ ญั ญาปกติ (หรอื บางคนอาจสงู กวา่ ปกต)ิ แตม่ ปี ญั หาการเรยี นรเู้ ฉพาะดา้ น ซงึ่ อาจจะเปน็ เฉพาะดา้ นใดดา้ นหนงึ่ (อา่ น เขยี น หรอื การคา นวณ) หรอื หลายดา้ น ผสมกนั ทา ใหผ้ ลการเรยี นตา่ กวา่ เกณฑเ์ นอื่ งจากไมส่ ามารถแปลผลสงิ่ ทไี่ ดร้ บั รไู้ ปแลว้ แสดงออกมาได้ เนอื่ งจาก พยาธิสภาพภายในสมอง ปัจจัยที่มีผลคือ ด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การมีเทคโนโลยีการเรียนรู้ที่มากขึ้น
ประมาณว่า 1 ใน 10 ของเด็กทั่วไปมีปัญหาการเรียนจนต้องได้รับการศึกษาพิเศษและเกือบครึ่งหนึ่งของ เด็กจานวนนี้เป็น LD
การศึกษาของเด็กในวัยเรียน พบว่าร้อยละ 6-10 จะเป็น LD เด็กผู้ชายจะมีปัญหาได้มากกว่าเด็กผู้หญิง ในอัตราส่วน 4:1
1. ประเภทของ LD
1.1 ด้านการเขียนและสะกดคา(Dysgraphia)
1.2 ด้านการอ่าน (Dyslexia)
1.3 ด้านการคานวณ (Dyscalculia)
1.4 หลายๆ ด้านร่วมกัน หากมีความบกพร่องด้านไหนก็ควรที่จะแก้ความบกพร่องด้านนั้นๆ
2. อาการที่มักเกี่ยวข้องกับ LD
2.1 สมาธิสั้น เด็ก LD ร้อยละ 15-20 มีสมาธิสั้น (Attention Deficit Hyperactive Disorder ADHD ร่วมด้วย) เด็กมักไม่อยู่กับที่ อยู่ไม่นิ่งจากภาวะ Hyperactive
2.2 เขียนตามแบบไม่ค่อยได้
2.3 ทางานช้า
2.4 การวางแผนงานและจัดระบบไม่ดี เช่น การทาการบ้าน มักจะมองไม่ออกว่าต้องเริ่มอย่างไร
2.5 ฟังคาสั่งสับสนไม่เข้าใจ
2.6 คิดแบบนามธรรม หรือคิดแก้ปัญหาไม่ค่อยดี
2.7 ความคิดสับสน ไม่เป็นขั้นตอนอาจจะทาให้มีปัญหากับกิจกรรมกิจวัตรประจาวัน
2.8 ความจาระยะสั้น/ยาวไม่ดี
2.9 ถนัดซ้าย หรือถนัดทั้งซ้ายและขวา
2.10 ทางานสับสน ไม่เป็นขั้นตอน
3. ปัญหาพฤติกรรมและอารมณ์
3.1 หลีกเลี่ยงการอ่านการเขียน
3.2 ทาสมุดการบ้านหายบ่อยๆ
3.3 ต่อต้านแบบดื้อเงียบ
3.4 ดูเหมือนเด็กเกียจคร้าน
3.5 ไม่มีสมาธิในการเรียน ทางานช้า ทางานไม่เสร็จในชั้นเรียน 3.6 ทางานสะเพร่า
3.7 ความจาไม่ดี ได้หน้าลืมหลัง
3.8 ขาดความมั่นใจ กลัวครูดุ กลัวเพื่อนล้อ
คู่มือสวนบําบัด 19
