มูลนิธิเพื่อเด็กพิการ

‘อุตตม’สั่งลุย ส่งทีม‘เราไม่ทิ้งกัน’ ลงพื้นที่เยียวยา-ฟื้นฟู

“อุตตม” สั่งทีม “เราไม่ทิ้งกัน”ลงพื้นที่ช่วยประชาชนสู้ภัยโควิด-19“ธนกร”เผย รมว.คลัง ลุยงานหนักต่อ หลัง พ.ร.ก.กู้เงิน 3 ฉบับ ผ่านฉลุยด้าน “แรมโบ้” ยืนยัน “นายกฯ” ห่วงใยประชาชนทุกกลุ่ม ล่าสุดอนุมัติเยียวยา กลุ่มเปราะบาง 13 ล้านคน พร้อมเห็นชอบเพิ่มเบี้ยคนพิการอีก

เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการ รมว.คลัง กล่าวว่าภายหลังจาก นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ได้ทำงานอย่างหนักช่วงที่ผ่านมา เพื่อนำเสนอ พ.ร.ก.กู้เงินทั้ง3ฉบับประกอบด้วย 1.พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563(1ล้านล้านบาท)2.พ.ร.ก.การรักษาเสถียรภาพของระบบการเงินและความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ พ.ศ.2563 (4 แสนล้านบาท) และ3. พ.ร.ก.การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019พ.ศ. 2563(5แสนล้านบาท) ซึ่งผ่านสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

และในวันที่ 4 มิถุนายน จะมีการร่างพ.ร.บ.โอนงบประมาณรายจ่ายปี 63 เข้าสู่การพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎรอีกฉบับ เพื่อนำงบประมาณทั้งหมดไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนสู้กับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งถึงแม้ว่ารัฐบาลจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้แต่ยังจะต้องเยียวยาและฟื้นฟูต่อไป

นายธนกรกล่าวด้วยว่าด้านเศรษฐกิจจะมีการนำงบประมาณจำนวน4แสนล้านบาท เพื่อนำไปฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ในส่วนนี้กระทรวงการคลัง เตรียมยุทธศาสตร์และแผนงานไว้แล้วโดยเฉพาะในเรื่องการสร้างงาน สร้างอาชีพในชุมชน ท้องถิ่น การส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากโดย ธกส.โดยนายอุตตมได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแล้ว

“นอกจากนี้ กระทรวงการคลังยังได้ทำโครงการก้าวต่อไปเราไม่ทิ้งกันโดยมีการตั้งทีมเราไม่ทิ้งกัน ลงพื้นที่ช่วยเหลือเยียวยาและฟื้นฟูพี่น้องประชาชนทั่วประเทศอีกด้วย ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังจะช่วยเหลือดูแลพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนทุกกลุ่ม”เลขานุการ รมว.คลัง ย้ำ

ขณะที่ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรีเผยว่าจากที่ได้รับเรื่องราวร้องทุกข์จากประชาชนที่มายื่นหนังสือโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง มีทั้งกลุ่มชมรมผู้สูงอายุ ชมรมคนพิการทางร่างกาย สมาคมคนตาบอดซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญกับคนกลุ่มนี้ เป็นพิเศษอีกกลุ่มหนึ่งจึงได้เห็นชอบในที่ประชุม ครม.เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2563ให้จ่ายเงินเยียวยากลุ่มเปราะบางจำนวน13ล้านคน แบ่งเป็น 3 กลุ่มคือเด็กแรกเกิด ถึงอายุ 6 ขวบ ที่มีฐานะยากจน จำนวน 1.4ล้านคน, ผู้สูงอายุ จำนวน 9.66 ล้านคน และงผู้พิการ จำนวน 2 ล้านคนด้วย โดยจ่ายเงินเยียวยาให้รายละ1,000บาทต่อเดือน เป็นระยะเวลา3เดือน เริ่มจ่ายในเดือนมิถุนายน นี้

ขณะเดียวกันรัฐบาลโดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.)ยังมีมติในการช่วยเหลือผู้พิการเพิ่มเติมเช่นเงินกองทุนให้คนละ1,000 บาทโอนเข้าบัญชีโดยตรงให้กับผู้พิการทั่วประเทศ 2 ล้านกว่าคน พักชำระหนี้ให้กับผู้พิการที่เป็นหนี้กองทุนผู้พิการ1ปี อนุมัติเงิน10,000บาทให้กับผู้พิการที่ต้องการเงินไปประกอบอาชีพโดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ไม่มีดอกเบี้ยและให้ผ่อนชำระได้ถึง 5 ปี

อีกทั้ง ครม.ยังให้ความเห็นชอบ เพิ่มเบี้ยคนพิการจากเดือนละ800บาทเป็น 1,000บาทสำหรับผู้พิการที่มีบัตรลงทะเบียน 1ล้านคน ส่วนผู้พิการอายุต่ำกว่า18ปี กว่า1แสนคน จะได้เพิ่มเบี้ยผู้พิการตั้งแต่ 800เป็น1,000 บาทเช่นกัน ส่วนนี้เริ่มตั้งแต่ปีงบประมาณถัดไปคือ1ตุลาคม 2563

“ยืนยันว่า นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลมีความจริงใจ และห่วงใย ประชาชนในทุกกลุ่ม จึงได้มีมาตรการต่างๆออกมาให้ความช่วยเหลือเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนในช่วงวิกฤตโควิดนี้ และให้สามารถดำรงอยู่ได้ นี่คือความจริงใจ ความห่วงใยประชาชนทุกกลุ่ม ที่นายกฯและรัฐบาลได้ทุ่มเทเพื่อประชาชนคนไทยอย่างสุดความสามารถ จึงอยากขอร้องกลุ่มคนที่คัดค้านหรือจงเกลียดจงชังรัฐบาล ขอให้ทำใจอย่างเป็นธรรม อย่ามีอคติมากเกินไป กรุณาใช้สติคิดและไตร่ตรองดูความจริงว่านายกฯ ไม่เคยเลือกปฎิบัติ ตั้งใจช่วยคนไทยทุกคนที่เดือดร้อนโดยไม่เลือกที่รักมักที่ชัง เพราะคนที่เดือดร้อนในภาวะนี้ คือคนไทยด้วยกันเราจึงต้องช่วยกันเต็มที่สุดความสามารถ ขอบรรดาฝ่ายค้านทั้งหลายลดความอาฆาตเกลียดชังลงบ้าง เอาประเทศ ประชาชนมาก่อน”นายสุภรณ์ กล่าว

ขอบคุณ : https://www.tddf.or.th/news/detail.php?contentid=0066&postid=0021148&currentpage=1

ขอบคุณ… https://www.naewna.com/politic/496975


ย้อนกลับ