มูลนิธิเพื่อเด็กพิการ

นางฟ้าของแม่

นางฟ้าของแม่

                   น้องเม ผู้เป็นเสมือนนางฟ้าตัวน้อยของแม่เล็ก เกิดมาพร้อมมีรอยแยกทำให้น้ำไขสันหลังรั่วออกมาในโพรงสมอง จนเกิดความผิดปกติที่สมอง ศีรษะโตมีภาวะสมองคั่งน้ำหรือหัวบาตร ได้รับการผ่าตัดแก้ไขจนน้ำในสมองหมดไป ปัจจุบันน้องเมอายุ 10 ขวบ มีพัฒนาการดีขึ้นเป็นลำดับ ด้วยการดูแลฟื้นฟูบำบัดจากแม่เล็กอย่างเต็มที่ จนน้องสามารถเข้าโรงเรียนเรียนร่วมกับเด็กทั่วไปได้

นางฟ้าผู้ไม่สมบูรณ์แบบ

          เมื่อแรกเกิดน้องเมหน้าตาจิ้มลิ้มน่าเอ็นดู น้ำหนักเพียง 1,650 กรัม ต้องอยู่ในตู้อบนาน 21 วัน แม่เล็กเจ็บปวดสุดขั้วหัวใจเมื่อคุณหมอที่ทำคลอดบอกว่าลูกมีความผิดปกติของสมอง แม้หัวใจแม่แทบแตกสลายด้วยความสงสารลูก แต่แม่เล็กก็ตั้งใจอย่างแน่วแน่นับแต่นาทีนั้น ในการที่จะหาวิธีดูแลนางฟ้าตัวน้อยให้ดีที่สุด

          “ความรู้สึกตอนนั้นแม่รู้สึกช็อค หดหู่ใจ สงสารลูกมากที่เกิดมาร่างกายผิดปกติ ขอให้คุณหมอช่วยรักษาให้ดีที่สุด ทำทุกอย่างเพื่อลูกให้มีอาการดีขึ้น ยอมลาออกจากงานที่ทำมาตัดเย็บเสื้อผ้าที่บ้านเพื่อจะได้มีเวลาดูแลเต็มที่ บอกตัวเองเลยว่าชีวิตนี้แม่ทำทุกอย่างเพื่อลูก แม่ขอมีลูกเพียงคนเดียวเพื่อมอบความรัก มอบเวลาทั้งหมดให้กับนางฟ้าตัวน้อยของแม่ ถึงลูกจะไม่สมบูรณ์ สมองลูกในแต่ละส่วนยังไม่แข็งแรง แต่ไม่เป็นไรหรอก ในเมื่อนางฟ้าตัวน้อยมีความตั้งใจมาเกิดเป็นลูกแม่ มีดวงจิตวิญญาณที่โคจรมาตรงกัน ด้วยผลบุญวาสนาที่สร้างสมกันมาแต่ชาติปางก่อน แม่ขอทำหน้าที่ความเป็นแม่ด้วยชีวิต”

          ตั้งแต่แรกเกิดน้องเมมีอาการซึม ไม่ดูดนม ร้องไห้โยเยตลอดวัน เมื่อเริ่มแข็งแรงอายุ 6 เดือนกว่า คุณหมอจึงได้นัดผ่าตัดวางท่อระบายน้ำออกจากโพรงสมอง โดยแพทย์เฉพาะทางศัลยกรรมเด็ก หลังการผ่าตัดได้รับการบำบัดฟื้นฟูจากนักกิจกรรมบำบัด และนักกายภาพอย่างต่อเนื่องที่โรงพยาบาลในพื้นที่

ฝึกลูกอย่างต่อเนื่อง

          หลังผ่าตัดน้องมีปัญหาเกี่ยวกับพัฒนาการทุกด้าน การมองเห็น การกลืน การพูด การเคลื่อนไหว กล้ามเนื้อแขนขาซีกขวาอ่อนแรง สมองส่วนความคิด ความจำ จำได้ระยะสั้น แต่น้องเมเป็นเด็กน้อยที่น่ารักฉลาดในการเรียนรู้ นอกจากพาไปพบนักกายภาพบำบัด แม่เล็กจัดโปรแกรมการดูแลฟื้นฟูลูกในแต่ละวันอย่างต่อเนื่อง ทำด้วยตนเอง ด้วยความรัก และใส่ใจอย่างดีที่สุด

          “การฝึกลูกไม่ปล่อยตามใจลูก พยายามให้ลูกฝืนใจในการฝึก ดูตามอารมณ์ ถ้างอแงฉุนเฉียวร้องกวนมาก อยากนอนพักก็ต้องปรับเปลี่ยนเวลาในการฝึก เช่น การเคลื่อนไหวความตึงตัวของกล้ามเนื้อ น้องมีอาการเกร็งที่แขน ขา กำมือ กล้ามเนื้ออ่อนแรง มีการเคลื่อนไหวแบบขึ้นๆ ลงๆ ในลักษณะที่ไม่สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวได้ตามความต้องการ กล้ามเนื้อทำงานไม่ประสานกัน พบนักกายภาพ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ ต้องฟื้นฟูด้วยการดัด ดึง ประคบ การนวด การบริหารร่างกาย ช่วงแรกๆ น้องเมต้านไม่ให้ความร่วมมือ พยายามปรับโปรแกรมฝึกที่เหมาะสมกับความสามารถ นำมาใช้ให้สัมพันธ์เชื่อมโยงกับกิจวัตรประจำวันด้วย มีฝึกแบบเล่นๆ สนุกสนาน แต่ฝึกทุกวันอย่างสม่ำเสมอ”
ความพยายามของแม่ไม่เคยลดละ แม่เล็กยังคงมาฝึกเรียนรู้กับนักกิจกรรมบำบัด นักกายภาพ พบแพทย์อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งได้เรียนรู้ในการส่งเสริมพัฒนาการและการเรียนรู้ การปรับตัวในการอยู่ในสังคม การฝึกทักษะในกิจวัตรประจำวัน ฝึกทักษะการรับรู้และการเคลื่อนไหว การละเล่น การออกแบบของเล่นที่เหมาะสม การทดสอบระดับพัฒนาการ และการเข้าร่วมทำกิจกรรมหอยทาก-ปูลม กับกลุ่ม ในโรงพยาบาลพื้นที่

        “มีพี่เลี้ยงที่มีลูกพิการเหมือนกันได้ชักชวนเข้ากลุ่มฟื้นฟูที่โรงพยาบาล หลังพบกลุ่มสภาพจิตใจรู้สึกดีขึ้น มีเพื่อนหัวใจเดียวกัน มีเพื่อนที่มีลูกพิการซ้ำซ้อนมากกว่า ไม่เดียวดายเหมือนเมื่อก่อน มีเวทีให้พูดคุยแลกเปลี่ยน ได้เรียนรู้หลักการฝึกรอบด้าน การออกแบบกิจกรรมที่เหมาะสม การประดิษฐ์อุปกรณ์เสริมต่างๆ ได้ประสบการณ์ที่ดีจากเพื่อน เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล มูลนิธิเพื่อเด็กพิการ ศูนย์การศึกษาพิเศษฯ”

บันทึกพัฒนาการของลูก

        แม่ใช้เทคนิคการเสริมแรงใจ ด้วยการเฝ้ารอผลความเปลี่ยนแปลงพัฒนาการของลูกอย่างมีความหวังและมีความสุข ทุกครั้งที่พัฒนาการดีขึ้น แม่ไม่ลืมที่จะจดบันทึกพัฒนาการในสมุด เพื่อเป็นพลังใจในการก้าวเดินต่อของสองชีวิต

        ผลงานการบันทึกพัฒนาการอย่างละเอียด เช่น น้องเมเริ่มพลิกคว่ำหงายวันที่ 31 มกราคม 2553 เริ่มคืบได้เมื่อ 10 กันยายน 2553 เริ่มคลานเมื่อวันจันทร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2553 ไปบำบัดที่โรงพยาบาลเมื่อวันจันทร์ที่ 11 ธันวาคม 2553 เริ่มนั่งเองได้เมื่อวันพุธที่ 1 ธันวาคม 2553 เกาะยืนได้เมื่อ 7 ธันวาคม 2553 เริ่มก้าวเดินได้วันอังคารที่ 15 กุมภาพันธ์ 2554 เริ่มชันเข่าวันที่ 14 พฤษภาคม 2554 เริ่มพูดคำว่า ข้าว น้ำ เรียกชื่อคนได้เมื่อ 9 มกราคม 2555 เริ่มเดินได้วันเสาร์ที่ 3 พฤศจิกายน 2555 ไปโรงเรียน วันศุกร์ที่15 พฤศจิกายน 2556 น้ำในสมองหมดเมื่อวันอังคารที่ 24 มกราคม 2560

        การจดบันทึกอย่างละเอียดช่วยให้แม่มีกำลังใจ และจดไว้เป็นความทรงจำที่สวยงามระหว่างแม่ลูกตลอดไป

ทุกเวลาคือการพัฒนาลูก

          ในความคิดของแม่เล็กทุกวินาทีมีแต่การคิดนำความรู้มาฝึกลูกอย่างต่อเนื่อง โดยไม่เหนื่อยหน่าย มีท้อบางครั้ง แต่ไม่ยอมถอยเพื่อลูกที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจ ทุกครั้งที่น้องเมมีพัฒนาการที่ดีขึ้น จากนอนซึม เริ่มมีแววตาตอบสนองบ้าง จากเรียกไม่มองหา เริ่มกลอกตาไปมาบ้างเมื่อแม่เรียก เพียงแค่เรื่องเล็กน้อยก็ช่วยให้กำลังใจของแม่มาเต็มอีกครั้ง หลังผ่าตัดน้องเมเก่งขึ้นตามลำดับ ชอบพูดเลียนแบบจัดรายการวิทยุ และมีเรื่องราวมาชวนให้แม่ฟังเฮฮารายวันอีกด้วย

          ปัจจุบันน้องเมมีพัฒนาการที่ดี ช่วยเหลือตัวเองได้มากพอจนสามารถเข้าเรียนโรงเรียน ซึ่งเป็นโรงเรียนเรียนร่วม น้องเมชอบไปโรงเรียน ชอบเล่นกับเพื่อนๆ ทำให้แม่ภูมิใจในความพยายามตลอดเวลาที่ผ่านมา ส่วนเป้าหมายที่จะเดินต่อไป แม่ต้องการให้น้องเมช่วยเหลือตัวเองได้มากขึ้น สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างอิสระในอนาคต โดยแม่รับอาสาจะนำพานางฟ้าตัวน้อยไปสู่ฝันที่เป็นจริงจวบจนชั่วชีวิตของแม่

ภาพจาก : https://illustmint.com/contents/328


ย้อนกลับ